ปัจจุบันการพัฒนาในทุกด้านย่อมมีเป้าหมายเพื่อการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกันทั้งภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม สิ่งแวดล้อมและสังคม แนวคิดนิเวศอุตสาหกรรมหรือ Industrial Ecology จึงเป็นแนวคิดใหม่ที่นำมาประยุกต์ใช้กับการพัฒนาอุตสาหกรรมแบบยั่งยืนที่มุ่งเน้นความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยการพัฒนา ออกแบบระบบอุตสาหกรรมใหม่ให้คล้ายคลึงกับระบบนิเวศน์ทางธรรมชาติ ที่อยู่บนหลักการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน และดำรงอยู่ได้อย่างยั่งยืนเป็นสำคัญ เพื่อคงความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติและพลังงานให้ชนรุ่นหลังสืบต่อไป
การพัฒนาเศรษฐกิจที่ให้ความสำคัญกับการผลิตและการบริโภคสินค้า/บริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมรวมถึงสุขภาพของคนในชุมชน ได้กลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจ เนื่องจากวิกฤติการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติได้ส่งผลกระทบต่อทุกประเทศในโลก ปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อม การขาดแคลนอาหารและพลังงาน ระบบนิเวศและทรัพยากรธรรมชาติเสื่อมโทรม ได้ทำให้ระบบนิเวศไม่สามารถรองรับและปรับสมดุลได้ทันต่อการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ทำให้แนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจ นิเวศเชิงพื้นที่เกิดขึ้นมากมายและหลากหลายรูปแบบ เช่น นคร/เมืองขนาดใหญ่นิเวศ เมืองนิเวศ และ นิคมอุตสาหกรรมนิเวศ เป็นต้น ซึ่งโดยภาพรวม หมายถึง พื้นที่ที่ถูกกำหนดให้สามารถพัฒนาและใช้แนวคิดและเครื่องมือ/กลไกการบริหารจัดการผลิตและบริโภคที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนได้หลากหลายและแตกต่างกัน
อุตสาหกรรมเชิงนิเวศถูกพัฒนามาจากหลักการนิเวศวิทยาอุตสาหกรรม สืบเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงภายในอุตสาหกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงจากกระบวนการผลิตไปสู่กระบวนการบริโภค ที่ควรให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพของการออกแบบผลิตภัณฑ์ และกระบวนการแปรรูปใช้ใหม่ ให้มากยิ่งขึ้น นำไปสู่ความพยายามเชื่อมโยงระบบอุตสาหกรรมกับระบบนิเวศวิทยาตามธรรมชาติ ซึ่งพิจารณาวงจรของวัสดุในระบบปิด โดยใช้ของเสียจากโรงงานหนึ่งเป็นแหล่งวัตถุดิบทางเลือกให้อีกโรงงานหนึ่ง เปรียบเสมือนระบบนิเวศวิทยาตามธรรมชาติที่ของเสียจากสิ่งมีชีวิตหนึ่งในระบบธรรมชาติสามารถนำมาใช้เป็นแหล่งอาหารให้กับอีกสิ่งมีชีวิตหนึ่งที่อยู่ภายในระบบเดียวกันได้ ซึ่งสามารถทำให้เกิดขึ้นได้ด้วยหลักการความสัมพันธ์ภายในอุตสาหกรรม (Industrial symbiosis) ที่เกิดขึ้นระหว่างอุตสาหกรรม ผ่านการศึกษาวงจรการไหล(Flow) ของวัตถุดิบ พลังงานน้ำ ของเสีย ผลิตผลพลอยได้ และทรัพยากรอื่นๆ ภายในระบบอุตสาหกรรมเชื่อมโยงไปถึงมิติเชิงเศรษฐกิจทั้งในระดับพื้นที่ และระดับภูมิภาค



การกำหนดยุทธศาสตร์ในการพัฒนาอุตสาหกรรมให้ทันต่อกระแสโลกาภิวัตน์ เป็นแนวทางในการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยให้สามารถแข่งขันในเวทีโลกได้ นอกจากผลผลิตจะดีแล้ว ยุทธศาสตร์ด้านธุรกิจก็เป็นสิ่งสำคัญ อุตสาหกรรมไทยที่สร้างรายได้ให้กับประเทศมีอยู่หลักๆด้วยกัน ดังนี้
ข้อถกเถียงประเด็นพลังงานธรรมชาติของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นก๊าซหรือน้ำมัน มีความสับสนและบิดเบือนข้อมูลอันเกิดจากเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์และความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ในที่สุดแล้วจะทำให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศในอนาคตอย่างรุนแรง


อุตสาหกรรมเชิงนิเวศถูกพัฒนามาจากนิเวศวิทยาอุตสาหกรรม เนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงภายในอุตสาหกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงจากกระบวนการผลิตไปสู่กระบวนการบริโภคที่ให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพของการออกแบบผลิตภัณฑ์และการแปรรูปใช้ใหม่ ซึ่งตัวอย่างของนิเวศวิทยาอุตสาหกรรมที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ เช่น การเชื่อมโยงอุตสาหกรรมย่อยเข้าสู่ระบบอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ กระทำโดยการเพิ่มประสิทธิภาพของวัตถุดิบและพลังงาน และการปรับปรุงเชิงวิศวกรรมซึ่งการพัฒนาอุตสาหกรรมเชิงนิเวศสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ระดับ คือ


ในปัจจุบันนั้นการลงประกอบกิจการในด้านอุตสาหกรรมนั้นได้รับความนิยมพอสมควร เพราะให้ผลตอบแทนดีพอสมควร ซึ่งการที่มีการลงทุนในด้านอุตสาหกรรมนั้นมีทั้งประโยชน์และก็โทษด้วยกัน หากมองในด้านของบวกแล้วการลงทุนด้านอุตสาหกรรมนั้นมีประโยชน์อย่างมากมาย อย่างเช่นในด้านของเศรษฐกิจซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจภายในของประเทศดีขึ้นส่งผลให้ประชากรในประเทศมีรายได้มากขึ้นนอกจากนี้ยังส่งผลไปถึงการพัฒนาประเทศ แต่ทว่าอุตสาหกรรมนั้นไม่ได้มีแค่เพียงประโยชน์เท่านั้น ซึ่งหากเรามองในด้านลบของการอุตสาหกรรมแล้ว อุตสาหกรรมก็มีโทษไม่น้อยไปกว่าประโยชน์ของมันเลย โดยเฉพาะในด้านสิ่งแวดล้อมนั้นได้รับผลกระทบอย่างมากอย่างมากจากการที่มี่โรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งปัญหาที่ทุกๆคนรู้จัก ก็คือ ปัญหาโลกร้อน ทั้งนี้สาเหตุหนึ่งของการเกิดภาวะโลกร้อนก็ คือ การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างหนึ่งจากการที่มีโครงงานอุตสาหกรรม